# เรียกใช้ทุกครั้งเมื่อใช้งานครั้งแรก
library(caracas)
3 การประยุกต์อนุพันธ์ในทางเศรษฐศาสตร์
ผู้อ่านควรมีความรู้และเข้าใจของนิยามของอนุพันธ์ และสามารถจดจำสูตรการหาอนุพันธ์ของฟังก์ชันต่างๆ ได้พอสมควร เพราะเนื้อหาในบทนี้จะพูดการการคำนวณเชิงสัญลักษณ์ของประยุกต์อนุพันธ์ในทางเศรษฐศาสตร์เป็นหลัก
3.1 ฟังก์ชันที่สามารถหาอนุพันธ์ได้ (Differentiable Functions)
ฟังก์ชันที่สามารถหาอนุพันธ์ได้ เรียกว่าเป็น ฟังก์ชันเชิงอนุพันธ์ (Differentiable Function)
ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้:
เงื่อนไขสำคัญ
ฟังก์ชันต้องต่อเนื่องที่จุดนั้น (แต่ฟังก์ชันที่ต่อเนื่อง อาจไม่จำเป็นต้องหาอนุพันธ์ได้ เช่น \(f(x) = |x|\) ที่ \(x = 0\))
ลิมิตของอัตราการเปลี่ยนแปลงจากซ้ายและขวาต้องเท่ากัน นั่นคือ ค่าอนุพันธ์จากซ้ายและขวาต้องเหมือนกัน
3.2 ตัวอย่างฟังก์ชันที่สามารถหาอนุพันธ์ได้
ฟังก์ชัน | อนุพันธ์ |
---|---|
\(f(x) = x^n\), \(n \in \mathbb{R}\) | \(f'(x) = nx^{n-1}\) |
\(f(x) = \sin(x)\) | \(f'(x) = \cos(x)\) |
\(f(x) = \cos(x)\) | \(f'(x) = -\sin(x)\) |
\(f(x) = e^x\) | \(f'(x) = e^x\) |
\(f(x) = \ln(x)\) (เฉพาะ \(x > 0\)) | \(f'(x) = \frac{1}{x}\) |
3.3 ตัวอย่างฟังก์ชันที่ไม่สามารถหาอนุพันธ์ได้ บางจุด
ฟังก์ชัน | สาเหตุ |
---|---|
\(f(x) = |x|\) | ไม่สามารถหาอนุพันธ์ได้ที่ \(x = 0\) เพราะกราฟหักมุม |
\(f(x) = x^{1/3}\) | อนุพันธ์ไม่มีที่ \(x = 0\) เพราะความชันไม่สิ้นสุด |
ฟังก์ชันที่ไม่ต่อเนื่อง | เช่น step function หรือฟังก์ชันที่กระโดด |
เยี่ยมมากครับ! ต่อไปนี้คือวิธี หาอนุพันธ์ของฟังก์ชันใน R ด้วยแพ็กเกจ caracas
อย่างละเอียด พร้อมตัวอย่างและคำอธิบายครบครับ
3.4 อนุพันธ์อันดับหนึ่งด้วยฟังก์ชัน der()
- ติดตั้งและเรียกใช้แพ็กเกจ
- สร้างตัวแปรเชิงสัญลักษณ์ (symbolic variables)
<- symbol("x") # สร้างตัวแปร x
x <- symbol("t") # สร้างตัวแปร t t
- สร้างฟังก์ชันที่ต้องการหาอนุพันธ์
ตัวอย่าง:
<- x^3 + 2*x^2 + 5*x + 1
f f
\[x^{3} + 2 x^{2} + 5 x + 1\]
<- t^3 * sin(t) + exp(t)+ log(t)
g g
\[t^{3} \sin{\left(t \right)} + e^{t} + \log{\left(t \right)}\]
- หาอนุพันธ์ด้วย
der()
เช่น
<- der(f, x)
df df
\[3 x^{2} + 4 x + 5\]
<- der(f, t)
df1 df1
\[0\]
<- der(g, t)
dg dg
\[t^{3} \cos{\left(t \right)} + 3 t^{2} \sin{\left(t \right)} + e^{t} + \frac{1}{t}\]
การแทนคำนวณค่าอนุพันธ์ที่ ณ จุดที่ต้องการด้วยฟังก์ชัน subs()
หรือจะแปลงเป็นฟังก์ชันในอาร์ด้วย as_func()
ก็ได้
# f'(0)
subs(df,x, 0)
\[5\]
# g'(1)
subs(dg, t, 1)
\[\cos{\left(1 \right)} + 1 + 3 \sin{\left(1 \right)} + e\]
หรือถ้าต้องการผลลัพธ์เป็นตัวเลขให้เพิ่่มฟังก์ชัน N()
# g'(1)
subs(dg, t, 1) |> N()
\[6.78299708875087\]
3.4.1 ตัวอย่างฟังก์ชันอื่น ๆ ที่คุณอาจใช้
ฟังก์ชัน | คำสั่ง caracas |
---|---|
\(f(x) = \sin(x)\) | f <- sin(x) |
\(f(x) = \exp(x^2)\) | f <- exp(x^2) |
\(f(x) = \ln(x + 1)\) | f <- log(x + 1) |
\(f(x) = \frac{x^2 + 1}{x + 2}\) | f <- (x^2 + 1)/(x + 2) |
แล้วหาอนุพันธ์ด้วย der(f, x)
ได้
3.5 อนุพันธ์อันดับสองด้วยฟังก์ชัน der2()
ขั้นตอนก็เหมือนกันการอนุพันธ์อันดับหนึ่ง ตัวอย่างเช่น
<- der2(f, x) df2
\[6 x + 4\]
<- der2(g, t) dg2
\[- t^{3} \sin{\left(t \right)} + 6 t^{2} \cos{\left(t \right)} + 6 t \sin{\left(t \right)} + e^{t} - \frac{1}{t^{2}}\]
การคำนวณค่าอนุพันธ์อันดับของจุดที่ต้องการ ก็สามารถใช้ฟังก์ชัน subs()
ได้เช่นเดียวกัน
3.6 การหาค่าสูงสุด-ต่ำสุดของฟังก์ชันด้วยอนุพันธ์
การหาค่าสูงสุด-ต่ำสุดของฟังก์ชันด้วยอนุพันธ์เป็นเรื่องใหญ่ของ การวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์และคณิตศาสตร์ เช่น การหากำไรสูงสุด, ต้นทุนต่ำสุด, อรรถประโยชน์สูงสุด ฯลฯ
3.6.1 ขั้นตอนการหาค่าสูงสุด/ต่ำสุดด้วยอนุพันธ์
- \(f(x)\) ต้องเป็นฟังก์ชันที่ต่อเนื่องและหาอนุพันธ์ได้
หาอนุพันธ์อันดับหนึ่ง: \[ f'(x) \]
หาค่าของ \(x\) ที่ทำให้ \(f'(x) = 0\) (เรียกว่า critical points หรือจุดวิกฤติ)
ใช้อนุพันธ์อันดับสอง เพื่อตรวจสอบว่าแต่ละจุดเป็นค่าสูงสุดหรือค่าต่ำสุด
ถ้า \(f''(x) > 0\) \(\rightarrow\) จุดต่ำสุด
ถ้า \(f''(x) < 0\) \(\rightarrow\) จุดสูงสุด
ถ้า \(f''(x) = 0\) \(\rightarrow\) ต้องวิเคราะห์เพิ่มเติม
การคำนวณโดยใช้ caracas
<- symbol("x")
x <- x^3 - 3*x + 1
f f
\[x^{3} - 3 x + 1\]
อนุพันธ์อันดับ 1
<- der(f, x)
df df
\[3 x^{2} - 3\]
อนุพันธ์อันดับ 2
<- der2(f, x)
ddf ddf
\[6 x\]
solve_sys(df, x)
x = -1
x = 1
แทนค่าลงในอนุพันธ์อันดับสอง
subs(ddf, x, -1)
\[-6\]
ดังนั้น \(f(-1)\) เป็นจุดสูงสุด
subs(ddf, x, 1)
\[6\]
ดังนั้น \(f(1)\) เป็นจุดต่ำสุด
วาดกราฟ
ที่จุด \(x=-1\) และ \(x=1\) เป็นค่าสูงสุดเฉพาะที่ (local maximum) และจุดต่ำสุดเฉพาะที่ (local minimum) ตามลำดับ ไม่ใช่ จุดสูงสุดสัมบูรณ์ (global maximum) และ จุดต่ำสุดสัมบูรณ์ (global minimum) ดังนั้นถ้าไม่ได้กำหนดช่วงมาให้ ต้องพิจารณาให้ดีว่าเป็นจุดสูงสุดหรือต่ำสุดแบบใด
3.7 การประยุกต์อนุพันธ์ในทางเศรษฐศาสตร์
ด้านการประยุกต์ | ตัวอย่าง / คำอธิบาย |
---|---|
1. ต้นทุนชายขอบ (Marginal Cost, MC) | อัตราการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนรวมเมื่อผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 1 หน่วย \(MC = \frac{dTC}{dQ}\) |
2. รายรับชายขอบ (Marginal Revenue, MR) | อัตราการเปลี่ยนแปลงของรายรับรวมจากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น 1 หน่วย \(MR = \frac{dTR}{dQ}\) |
3. อรรถประโยชน์ชายขอบ (Marginal Utility) | การเปลี่ยนแปลงของอรรถประโยชน์เมื่อบริโภคสินค้าเพิ่มขึ้น \(MU_x = \frac{dU}{dx}\) |
4. การเพิ่มผลผลิต (Marginal Product) | ความเปลี่ยนแปลงของผลผลิตเมื่อเพิ่มปัจจัยการผลิต เช่น แรงงาน \(MP_L = \frac{dQ}{dL}\) |
5. การหาค่าสูงสุด-ต่ำสุดของฟังก์ชัน (Optimization) | ใช้อนุพันธ์เพื่อหา จุดสูงสุดของกำไร, อรรถประโยชน์, รายได้ เป็นต้น โดยแก้ \(f'(x) = 0\) |
6. อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา (Price Elasticity) | วิเคราะห์ว่าปริมาณเปลี่ยนแปลงเร็วแค่ไหนเมื่อราคาขยับ \(E_p = \frac{dQ}{dP} \cdot \frac{P}{Q}\) |
7. การเติบโตทางเศรษฐกิจ (Growth Rate) | ใช้อนุพันธ์กับฟังก์ชันเช่น \(Y(t)\), \(K(t)\) เพื่อหาการเติบโตต่อเวลา \(\frac{dY}{dt}\) |
แนวทาง:
\[
MC(Q) = \frac{dTC}{dQ} = 10Q + 10 \Rightarrow MC(10) = 110
\] การคำนวณเชิงสัญลักษณ์และเชิงตัวเลขด้วย caracas
# สร้างฟังก์ชัน TQ
<- symbol("Q")
Q <- 5*Q^2+10*Q+100
TC TC
\[5 Q^{2} + 10 Q + 100\]
# หาอนุพันธ์ของ TC(Q)
<- der(TC,Q)
dTC dTC
\[10 Q + 10\]
# คำนวณ TQ'(10)
subs(dTC, Q, 10)
\[110\]
แนวทาง:
\[
MR(Q) = \frac{dTR}{dQ} = 50 - Q \Rightarrow MR(20) = 30
\]
การคำนวณเชิงสัญลักษณ์และเชิงตัวเลขด้วย caracas
# สร้างฟังก์ชัน TR
<- symbol("Q")
Q <- 50*Q -Q^2/2
TR TR
\[- \frac{Q^{2}}{2} + 50 Q\]
# หาอนุพันธ์ของ TR(Q)
<- der(TR,Q)
dTR dTR
\[50 - Q\]
# คำนวณ TR'(20)
subs(dTR, Q, 20)
\[30\]
แนวทาง:
\[
MU_x = \frac{\partial U}{\partial x} = \frac{1}{2}x^{-0.5}y^{0.5}
\Rightarrow MU_x(4,9) = \frac{1}{2} \cdot \frac{1}{2} \cdot 3 = \frac{3}{4}
\]
การคำนวณเชิงสัญลักษณ์และเชิงตัวเลขด้วย caracas
# สร้างฟังก์ชัน U(x,y)
<- symbol("x")
x <- symbol("y")
y <- sqrt(x)*sqrt(y)
U U
\[\sqrt{x} \sqrt{y}\]
# หาอนุพันธ์ของ Ux
<- der(U,x)
Ux Ux
\[\frac{\sqrt{y}}{2 \sqrt{x}}\]
# คำนวณ Ux(4,9)
subs(Ux, list(x = 4, y = 9))
\[\frac{3}{4}\]
แนวทาง:
\[
MP_L = \frac{\partial Q}{\partial L} = 1.2 \cdot L^{-0.4}K^{0.4}
\Rightarrow MP_L = 1.2 \cdot 25^{-0.4} \cdot 16^{0.4} \approx 1.0038
\]
การคำนวณเชิงสัญลักษณ์และเชิงตัวเลขด้วย caracas
# สร้างฟังก์ชัน Q(L,K)
<- symbol("L")
L <- symbol("K")
K <- 2*L^0.6*K^0.4
Q Q
\[2 K^{0.4} L^{0.6}\]
# หาอนุพันธ์ของ MP_L
<- der(Q,L)
MP_L MP_L
\[\frac{1.2 K^{0.4}}{L^{0.4}}\]
# คำนวณ MP_L(25, 26)
subs(MP_L, list(L = 25, K = 16))
\[1.00381397048762\]
แนวทาง:
\[
\Pi'(Q) = 120 - 8Q \Rightarrow 120 - 8Q = 0 \Rightarrow Q = 15
\]
ตรวจสอบ:
\[
\Pi''(Q) = -8 < 0
\]
การคำนวณเชิงสัญลักษณ์และเชิงตัวเลขด้วย caracas
# สร้างฟังก์ชัน Pi(Q)
<- symbol("Q")
Q <- 120*Q-4*Q^2-100
Pi Pi
\[- 4 Q^{2} + 120 Q - 100\]
# หาอนุพันธ์ของ Pi(Q)
<- der(Pi,Q)
dPi dPi
\[120 - 8 Q\]
# หาจุดที่ Pi'(Q)=0
solve_sys(dPi,Q)
Q = 15
ทดสอบค่าเป็นค่าสูงสุดจริงหรือไม่ โดยใช้อนุพันธ์อันดับสอง
# หาอนุพันธ์อันสองของ Pi(Q)
<- der2(Pi, Q)
ddPi ddPi
\[-8\]
เนื่องจาก อนุพันธ์อันดับ 2 มีค่าเป็นลบทุกจุด ดังนั้่น จึงสรุปได้ว่า ที่ Q = 15 จะมีกำไรสูงสุดคือ
subs(Pi, Q, 15)
\[800\]
แนวทาง:
\[
E_p = \frac{dQ}{dP} \cdot \frac{P}{Q} = (-2) \cdot \frac{20}{100 - 2(20)} = -2 \cdot \frac{20}{60} = -\dfrac{2}{3}
\] การคำนวณเชิงสัญลักษณ์และเชิงตัวเลขด้วย caracas
# สร้างฟังก์ชัน Q(P)
<- symbol("P")
P <- 100 - 2*P
Q Q
\[100 - 2 P\]
# หาอนุพันธ์ของ Q(P)
<- der(Q,P)
dQ dQ
\[-2\]
# สร้างฟังก์ชัน Ep
<- dQ*P/Q
Ep Ep
\[- \frac{2 P}{100 - 2 P}\]
# หาค่า Ep(20)
subs(Ep, P, 20)
\[- \frac{2}{3}\]
แนวทาง:
\[
\frac{dY}{dt} = 100 \cdot 0.05 \cdot e^{0.05t} \Rightarrow
\frac{dY}{dt}(10) = 5 \cdot e^{0.5} \approx 5 \cdot 1.6487 \approx 8.24
\]
การคำนวณเชิงสัญลักษณ์และเชิงตัวเลขด้วย caracas
# สร้างฟังก์ชัน Y
<- symbol("t")
t <- 100*exp(0.05*t)
Y Y
\[100 e^{0.05 t}\]
# หาอนุพันธ์ของ Y
<- der(Y, t)
dY dY
\[5.0 e^{0.05 t}\]
# หาค่า Y'(10)
subs(dY, t, 10)
\[8.24360635350064\]
3.8 บบฝึกหัดประยุกต์อนุพันธ์ในเศรษฐศาสตร์
ให้ใช้ caracas ในการหาคำตอบ
กำหนดฟังก์ชันต้นทุนรวมเป็น \(TC(Q) = 3Q^3 + 5Q^2 + 50\) จงหาอัตราการเปลี่ยนแปลงของต้นทุน (MC) เมื่อ \(Q = 2\)
รายได้รวมของผู้ผลิตให้โดย \(TR(Q) = 120Q - 4Q^2\) จงหา MR ที่ระดับการผลิต \(Q = 10\)
ให้ฟังก์ชันอรรถประโยชน์ \(U(x, y) = x^2 y^{0.5}\) จงหา Marginal Utility ของ \(x\) เมื่อ \(x = 4\), \(y = 16\)
ฟังก์ชันผลผลิตคือ \(Q = 20L^{0.6}K^{0.4}\) จงหาอนุพันธ์ของผลผลิตตามแรงงาน \(L\)
กำหนดฟังก์ชันต้นทุนเฉลี่ย \(AC(Q) = Q + \frac{100}{Q}\) จงหาอัตราการเปลี่ยนแปลงของ AC เมื่อ \(Q = 10\)
ให้ฟังก์ชันรายได้ \(R(P) = P(300 - 3P)\) จงหาอัตราการเปลี่ยนแปลงของรายได้ตามราคา (dR/dP)
ฟังก์ชันกำไรคือ \(\Pi(Q) = 100Q - 5Q^2 - 200\) จงหาจุดที่กำไรเพิ่มขึ้นช้าที่สุด (ค่าต่ำสุดของ d²π/dQ²)
ผู้บริโภคมีฟังก์ชัน \(U(x, y) = \ln(x) + 2\ln(y)\) จงหาอนุพันธ์ของอรรถประโยชน์ตาม \(y\)
ให้ฟังก์ชันต้นทุนรวม \(C(Q) = 10Q^2 + 100\) จงหาอัตราการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนเมื่อ \(Q = 5\)
ฟังก์ชันผลผลิต \(Q = L^{1/2}K^{1/2}\) จงหา MP ของทุน \(K\) ที่ \(L = 25, K = 16\)
หากต้นทุนเพิ่ม (MC) คืออนุพันธ์ของ \(TC = Q^2 + 5Q\) จงหาค่า MC ที่ \(Q = 6\)
ให้ \(TR = 50Q - Q^3\) และ \(TC = 5Q^2 + 50\) จงหาค่า dπ/dQ ที่ \(Q = 4\)
ฟังก์ชันต้นทุนเฉลี่ย \(AC = \frac{TC}{Q}\) โดย \(TC = Q^2 + 20\) จงหา dAC/dQ เมื่อ \(Q = 2\)
ให้ฟังก์ชันอรรถประโยชน์ \(U = x^{0.4}y^{0.6}\) จงหาอนุพันธ์ของ \(U\) ตาม \(x\)
รายได้รวมคือ \(R(Q) = 200Q - 2Q^2\) จงหาค่า Q ที่ MR = 0
ต้นทุนรวมคือ \(C(Q) = 4Q^3 - 20Q^2 + 60Q\) จงหา MC และวิเคราะห์ว่าจุดใด MC ต่ำสุด
ฟังก์ชันผลผลิต \(Q(L) = 5L - 0.1L^2\) จงหา MP ที่ \(L = 10\)
ให้ฟังก์ชันอรรถประโยชน์ \(U(x, y) = x^2 + y^2\) จงหาเส้นชั้นอรรถประโยชน์ (indifference slope) ที่ \(x = 3, y = 4\)
ถ้ารายได้เฉลี่ยคือ \(AR = \frac{TR}{Q}\), โดย \(TR = 80Q - Q^2\) จงหาอัตราการเปลี่ยนแปลงของ AR ที่ \(Q = 10\)
ฟังก์ชันต้นทุนรวม \(TC = 100 + 20Q + 0.5Q^2\) จงหาอัตราการเปลี่ยนแปลงของ MC เมื่อ Q เพิ่มขึ้น 1 หน่วย